King of King



มอลล่า มอยยิฮาน ศิลปินที่มีชื่อเสียงด้านจิตรกรรมและดนตรี จากสหรัฐอเมริกา จัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ เทคนิคสีน้ำในชื่อ  King of King  ซึ่งจัดแสดงที่แคสซี่ แกลเลอรี่ ถนนสุขุมวิท 31 กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายนนี้ เวลา 18:30 น. จนถึงวันที่ 14 ตุลาคม2560


นิทรรศการครั้งนี้ถือเป็นการนำผลงานมาแสดงที่ประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2  โดยก่อนหน้านี้ มอร่าเคยจัดนิทรรศการครั้งแรกในเมืองไทยเมื่อเดือนลุตาคม ปี 2559 หรือหนึ่งสัปดาห์ก่อนพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจะเสด็จสวรรคต  ซึ่งบรรยากาศในครั้งนั้นประชาชนชาวไทยโศกเศร้ากันทั้งประเทศ  จึงกลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการวาดพระบรมฉายาสาทิศลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชขึ้นมา







ภาพที่นำมาจัดนิทรรศการครั้งนี้เป็นภาพพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ สีน้ำเกือบ 20 ภาพ  ซึ่งมอร่าได้แรงบันดาลใจจากความชื่นชอบภาพเหตุการณ์ขณะที่ทรงออกเยี่ยมราษฎร และทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆ ทั่วประเทศรวมถึงในพื้นที่ทุรกันดารที่ห่างไกล เช่น ทรงพระดำเนินผ่านทุ่งนา และผืนป่า โดยทรงมีดินสอ แผนที่ และกล้องถ่ายรูป เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการทรงงาน โดยพระองค์ได้ต่อสู้กับความทุกข์ยาก เพื่อเพิ่มพูนความสุขแก่พสกนิกรทั้งประเทศตลอด 70 ปี ของการครองราชย์ พระองค์ท่านทรงเป็นที่เคารพยกย่องทั้งในฐานะรัฐบุรุษ ภิกษุ ทหาร นักดนตรี นักวาดภาพ นักถ่ายภาพ นักประดิษฐ์ และนักกีฬา จนกระทั่งได้รับการยกย่องให้เป็น “กษัตริย์นักพัฒนา” อย่างแท้จริง



"ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฉันรู้สึกรักและเลื่อมใสใน “พระราชาของปวงชน” ในประเทศไทย ผู้ทรงนำพาประเทศชาติไปข้างหน้า ผ่านการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยพระวิสัยทัศน์และพระปรีชาสามารถของพระองค์จึงทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเสถียรภาพและเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อครั้งที่ฉันได้ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีกับประชาชนคนไทยนับแสนที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ภายใต้การอำนวยเพลงโดยอาจารย์ สมเถา สุจริตกุล ฉันรู้สึกซาบซึ้งใจในความรักและความเคารพที่คนไทยมีต่อพระองค์ท่าน"






ในปีแห่งการไว้ทุกข์นี้ มอร่าได้เยี่ยมชมนิทรรศการจำนวนมากที่พรรณนาถึงพระปรีชาสามารถและพระอัจริยภาพตลอดพระชนพรรษาของพระองค์ ขณะที่คนไทยให้ความเคารพต่อพระอัจริยภาพทางด้านศิลปะ วรรณกรรมและดนตรี

“มีชาวทิเบตท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า ผู้นำท่านนี้เป็นดวงดาวที่หายากมากที่ส่องแสงยามกลางวัน ขอน้อมเกล้าฯ อาลัยพระธรรมราชา ซึ่งเราจะไม่ได้เห็นผู้ทรงธรรมเช่นนี้อีก”  มอร่ากล่าวในท้ายที่สุด


มอร่า มอยนิฮาน คือใคร



มอร่า มอยนิฮาน ย้ายมาอยู่ที่กรุงนิวเดลี ในปี พ.ศ. 2516 ตอนที่พ่อของเธอ  แดเนียล แพทริค มอยนิฮาน วุฒิสมาชิกนิวยอร์ค เดินทางมาพำนักที่ประเทศอินเดียในฐานะเอกอัครราชทูตแห่งสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศอินเดีย ความสนใจที่เธอมีต่อประชาชนและวัฒนธรรมของเอเชียได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่นั้นจวบจนวันนี้ มอร่าสำเร็จการศึกษาจากอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล สคูล กรุงนิวเดลี ซึ่งรู้จักกันดีว่า “ฮินดี ไฮ” และเรียนรู้ภาษาฮินดี อูรดูลทิเบต โดยในช่วงเวลานั้นเองที่เธอได้มีโอกาสมาเยี่ยมเยียนประเทศไทยครั้งแรก แต่หลงใหลในวัฒนธรรมไทย

ตลอดหลายปีที่เธอท่องเที่ยวทั้งในประเทศอินเดีย แคชเมียร์ ภูฏาน ศรีลังกา ปากีสถาน อัฟกานิสถาน อุซเบกิสถาน บังคลาเทศ ไทย จีน และญี่ปุ่น เธอได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์การดนตรี  และศิลปะของประเทศเหล่านี้ ซึ่งให้แรงบันดาลใจแก่เธอในการแต่งเพลง จนเป็นที่มาของการสร้างสรรค์อัลบั้มเพลงถึงสามอัลบั้ม คือ โยคะ โฮเต็ล บางกอก แท็กซี่ (Bangkok Taxi) และล่าสุดคือ บอมเบย์ ซูเปอร์สตาร์(Bombay Superstar)

ตอนอายุ 23 ปี มอร่า บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และนักดนตรี ได้ปรากฏบนหน้าปกของนิตยสารชื่ออินเตอร์วิว(Interview) ของแอนดี้ วอร์ฮอล โดยมอร่าได้ทำงานร่วมกับแอนดี้เป็นเวลาห้าปีที่นิตยสารอินเตอร์วิว รวมทั้งได้เป็นพิธีกรร่วมในรายการโทรทัศน์ของแอนดี้ วอร์ฮอล นอกจากนี้ เธอยังเป็นนักแต่งนวนิยายที่ขายดีที่สุดสองเรื่องคือ โยคะ โฮเต็ล (Yaga Hotel) และคัพเวอร์เกิร์ล (Covergirl) และงานบทกวีชื่อ กลียุค (kaliyuga)



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Soneva Kiri เกาะกูด สวรรค์บนดิน เป็นมิตร & รักษาสิ่งแวดล้อม : ปาณี ชีวาภาคย์

MBK พาจิตอาสาปทุมวันบุกชุมชนอ่อนนุช 14 ไร่ เรียนรู้ "ขยะคือทองคำ”

Sustainability Marketing มาตรฐานใหม่ในโลกธุรกิจ : ฐิติภา ลักษณพิสุทธิ์