มะนาวเงินล้านบ้านน้ำทรัพย์ “ ต้นแบบ” เศรษฐกิจพอเพียง



ชุมชนบ้านน้ำทรัพย์ใช้เวลา 20 ปีในการพลิกฟื้นจากการที่ทุกครัวเรือนมีหนี้สิน  ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์ของพระราชามาใช้ในการพัฒนาและแก้ปัญหา ที่สำคัญคือการทำอย่างต่อเนื่องในทุกเรื่อง  ทุกวันนี้ชุมชนแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นต้นแบบในเรื่องการบริหารจัดการชุมชน พร้อมกับรางวัลอีกมากมายที่ได้รับ  ทุก ๆ เดือนจะมีทั้งหน่วยงานราชการและเอกชนทั่วประเทศเข้ามาเรียนรู้ความสำเร็จของ“ ชุมชนต้นแบบ” แห่งนี้มิได้ขาด

หมู่บ้านน้ำทรัพย์ เป็นุมชนที่ได้ชื่อว่าเป็น "ต้นแบบ"ของแหล่งเรียนรู้


บนพื้นที่ 1,400 ไร่ อันเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านน้ำทรัพย์ ตำบลแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี  จากเดิมที่มีผืนป่าอุดมสมบูรณ์  ต่อมามีการลักลอบตัดไม้และทำไร่เลื่อนลอย  จึงทำให้สภาพป่าเสื่อมโทรม  ชาวบ้านทำการเกษตรกรรมไม่ได้ผล ทำให้มีหนี้สิน  ชูชาติ วรรณขำ ผู้ใหญ่บ้านของที่นี่จึงชักชวนลูกบ้านนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ โดยเริ่มจากเปลี่ยนวิถีในการทำมาหากิน จากเดิมรุ่นพ่อแม่ปลูกข้าวโพด ปลูกฝ้าย  แต่เมื่อสภาพป่าเสื่อมโทรมได้ผลผลิตไม่พอกิน  ผู้ใหญ่บ้านชูชาติจึงหันมาส่งเสริมกลุ่มอาชีพต่าง ๆ  ตามความถนัดของแต่ละคน

                           ผู้ใหญ่บ้านชูชาติ วรรณขำ

“ ผมเริ่มจากบริหารจัดการเรื่องคนและกลุ่มอาชีพให้อยู่ให้ได้ก่อน  เรื่องอาชีพนั้นไม่ต้องทำเหมือนกันทั้งหมู่บ้านก็ได้  แบ่งกันไปตามความถนัด จากนั้นก็มาลดรายจ่าย สร้างรายได้ไปพร้อม ๆ กัน” 

เดิมชาวบ้านน้ำทรัพย์มีรายได้คนละ 2-3 หมื่นบาทต่อปีจากการทำกสิกรรม แต่หลังจากที่ชาวบ้านเลิกปลูกพืชเชิงเดียวคือข้าวโพดและฝ้าย ซึ่งสามารถเก็บผลผลิตปีละ 2 ครั้ง  แล้วหันมาปลูกพืชผสมผสาน ทั้งมะนาว กล้วยหอม มะเขือ กระเจี๊ยบ พริก สามารถเก็บผลผลิตได้ทุกวันจึงมีรายได้เข้ามาทุกวัน   ปัจจุบันมีรายได้เฉลี่ยคนละ 2-3 แสนบาทต่อปี



เคล็ดลับแห่งความสำเร็จในเรื่องการประกอบอาชีพนั้น  ผู้ใหญ่ชูชาติเผยว่าการสอนอาชีพให้กับชาวบ้านนั้น เขาจะให้การสนับสนุนเฉพาะคนที่สนใจเท่านั้น  และต้องส่งเสริมให้ประสบความสำเร็จ  เพื่อให้เป็น “ต้นแบบ” แล้วขยายผล จนครอบครัวอื่น ๆ ที่ต้องการมีรายได้ต้องหันมาทำบ้าง

อย่างเช่นการปลูกมะนาวของที่นี่ประสบความสำเร็จอย่างมากจนสามารถสร้างรายได้ปีละหลายล้าน สร้างชื่อเสียงให้กับหมูบ้านน้ำทรัพย์  ถูกยกให้เป็นต้นแบบของความสำเร็จที่มีคนทั่วประเทศสนใจเดินทางมาเพื่อเรียนรู้

จตุพล จันทร์เพ็ญ ชาวบ้านน้ำทรัพย์ วัย 44 ปี เจ้าของสวนมะนาว 20 กว่าไร่ ที่กลายเป็น “ คนต้นแบบ”  ทุกวันนี้เขาเปิดสวนของเขาพร้อมกับเป็นวิทยากรบรรยายให้ผู้ที่สนใจทั่วประเทศมาเรียนรู้การปลูกมะนาวให้ได้เงินล้าน  จตุพลเล่าว่าที่เลือกปลูกมะนาวเพราะผืนดินแถบนี้เป็นหินภูเขาจึงปลูกได้แต่มะนาว ซึ่งพ่อและแม่เขาเริ่มแรกปลูกประมาณ 300 ต้นเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ให้ผลผลิต 5,000 ลูกต่อเดือน แต่เมื่อหักทั้งค่าปุ๋ยและยาฆ่าแมลง ซึ่งเป็นต้นทุนที่สูงถึง 60 %  จึงเหลือรายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย  ประกอบกับการใช้สารเคมีนาน ๆ ทำให้เกิดเจ็บป่วยด้านสุขภาพอีกด้วย

จตุพล จันทร์เพ็ญ เจ้าของสวนมะนาวเงินล้าน

ต่อมาจตุพลจึงทดลองเปลี่ยนวิธีการปลูกจากมะนาวปลูกจากกิ่งตอนมาใช้วิธีการเพาะเมล็ด  โดยเลือกมะนาวแป้นรำไพเนื่องจากผิวบาง น้ำหอม ออกผลทั้งปี

“ตอนพ่อแม่ปลูกมะนาวกิ่งตอน พอขึ้นปีที่ 5 มะนาวก็ตายเพราะไม่มีรากแก้วอายุจึงสั้น  และต้องใช้เวลาปลูกต้นใหม่อีก 18 เดือนจึงจะเก็บผลได้ ทำให้ขาดช่วงรายได้ไปนาน  แต่พอเปลี่ยนมาใช้มะนาวปลูกเมล็ดอายุของต้นจะยืนถึง 15 ปี สามารถเก็บผลได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี” 

มะนาวแป้นรำไพ กลิ่นหอม เปลือกบาง น้ำเยอะ ทำชื่อเสียงให้กับหมูบ้านน้ำทรัพย์

นอกจากนี้ชุมชนบ้านน้ำทรัพย์ยังเข้าโครงการผลิตสารสมุนไพรขับไล่แมลง เพื่อผลิต “ น้ำส้มควันไม้” แทนย่าฆ่าแมลงที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย  จนกลายเป็นหมู่บ้านต้นแบบกลั่นสมุนไพรไล่แมลง รวมถึงผลิตฮอร์โมนสูตรเด็ด เพื่อเร่งการเติบโต  ทำให้มะนาวสวนของจตุพลนอกจากเป็นออแกนิกแล้ว  ยังออกลูกดกตลอดทั้งปี  มะนาวหนึ่งต้นให้ผลถึงปีละ 4- 6  พันลูก  สวนมะนาวของจตุพลสามารถเก็บมะนาวขายได้ 1.4 แสนลูกต่อรอบ(  ประมาณ 25 วัน) หรือคิดเป็นรายได้ปีละหลายล้านบาท

ชาวบ้านกำลังทำ “ น้ำส้มควันไม้” แทนย่าฆ่าแมลงที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

“ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ช่วงมะนาวแพง เราส่งมะนาวราคาลูกละ 6 บาท เดือนหนึ่งมีรายได้ถึง 2 ล้านบาท  ได้ราคานี้ติดต่อกันมา 3 ปีแล้ว  แต่ถึงแม้ราคามะนาวตก เราก็ไม่เดือดร้อนเพราะเราทำปุ๋ยกับสมุนไพรฆ่าแมลงเอง จึงทำให้เรามีต้นทุนต่ำแค่ 10 % เท่านั้น ” 

แม้น้ำมะนาวจะมีรสเปรี้ยว  แต่ผลผลิตของมะนาวเงินล้านกลับหอมหวานสามารถพลิกชีวิตครอบครัวจันทร์เพ็ญจากที่เคยเป็นหนี้สินให้กลับมาใช้ชีวิตอย่างสุขสบายขึ้น

“ ชีวิตสบายขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย เดิมเราทำงานกันหนักมาก  แต่ตอนนี้เริ่มมีวันหยุด ได้พาพ่อแม่ไปเที่ยว ชีวิตก็มีความสุข ”


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Soneva Kiri เกาะกูด สวรรค์บนดิน เป็นมิตร & รักษาสิ่งแวดล้อม : ปาณี ชีวาภาคย์

SACICTสร้าง "ทายาท" สานต่องานอนุรักษ์หัตถกรรมให้ยั่งยืน

จากกรณีศึกษาลอรีอัล กรุ๊ป ...วิชาสื่อสารฯ ปรับหลักสูตรกันเถอะ !